22 July 2014

มองไปรอบๆ  ตัวของเราท่านๆ  ดูสิว่า มีคนเก่งๆ (Highly Intelligence)  จำนวนมากน้อยเพียงไรในสังคม ครอบครัวหรือที่ทำงานของเรา บางครั้งเราเองก็คงแอบคิด(หรือคิดดังๆ)อยู่เหมือนกันว่า เราก็เป็นคนเก่งคนหนึ่งหากเราพิจารณาให้ลึกลงไปอีกเราก็จะพบว่าคนเก่งๆ ของเราบางท่าน  ก็ไม่สามารถประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน  รวมไปถึงความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น ในบางกรณีอาจจะหนักข้อไปถึง  การถูกคนรอบข้างมองว่าเป็นคนเผด็จการ  ไม่ฟังความคิดเห็นของผู้อื่นเอาเสียเลย

Edward Buono ได้อธิบายกับดักของคนเก่ง หรือ Intelligence Trap ไว้อย่างแยบยลในหนังสือชื่อ Thinking Course  Buono ได้เปรียบเปรยว่า ความฉลาดของคนเปรียบเสมือนแรงม้าของรถยนต์   (Horse power) แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามประสิทธิภาพของรถยนต์คันนั้นๆไม่ได้ขึ้นกับแรงม้าแต่กลับขึ้นอยู่กับความสามารถในการขับขี่รถยนต์ (Driving Skill) ของแต่ละบุคคล  ความหมายที่แท้จริงที่เขาหมายถึง ณ ที่นี้คือ เมื่อคุณมีความฉลาดแล้ว   คุณยังจำเป็นที่จะต้องมีความสามารถในการคิด  (Thinking Skill) ซึ่งจะนำมาถึงการทำงานที่ประสบความสำเร็จหรือประสิทธิภาพที่ดี  ของผลงาน  มีข้อสรุป 2 ข้อ  ที่น่าสนใจดังนี้



ข้อแรกถ้าหากว่าเรามีรถยนต์ที่มีแรงม้าที่ดีอยู่แล้ว  เราต้องพัฒนาความสามารถ ในการขับขี่ของเราให้ดี  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับรถที่มีแรงม้าแรงๆ   หากผู้ขับขี่ขาดทักษะในการขับรถนั้น  จะเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อตนเองและผู้อื่น   เปรียบเทียบไปก็ไม่แตกต่าง กับคนที่เกิดมาพร้อมกับมันสมองอันชาญฉลาด   แต่ขาดทักษะในการคิดเขาอาจจะไม่สามารถมีโอกาสได้ใช้ความฉลาดของเขาได้อย่างเต็มที่

ข้อ 2หากว่าเราบังเอิญมีรถยนต์ที่มีแรงม้าต่ำ  เราจะทำอย่างไร เหมือนกันกับความสามารถทางมันสมอง (IQ) ซึ่งขึ้นอยู่กับพันธุกรรมมากกว่าอย่างอื่น uono เสนอว่าในกรณีนี้ ความจำเป็นในการพัฒนาทักษะทางความคิด(Thinking Skill) มีความจำเป็นอย่างมาก

Buono ยังสรุปต่อไปว่า จากประสบการณ์และงานวิจัยของเขากว่า 25 ปี พบว่า  คนจำนวนมากที่คิดว่าตนเองเป็นคนที่มีความฉลาดสูง  (Highly Intelligence)  ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่มีทักษะทางการคิดที่ดี  มีเหตุผลที่สำคัญ 2 ประการที่เขาได้อธิบายไว้ได้อย่างน่าสนใจดังนี้

- คนที่คิดว่าตนฉลาดนั้น  มักจะมีมุมมองของตนเองในการ  มองเรื่องราวต่างๆ  และใช้ความฉลาดของตนอธิบายมุมมองของตนเอง ยิ่งคนๆนั้นฉลาดมากขึ้นเท่าไร  เขาก็ยิ่งอธิบายมันได้ดีมากขึ้นเท่านั้น และนั่นหมายความว่าคนๆ   นี้จะยิ่งเข้าใจผิดๆว่า  ไม่มีใครคิดหรือตัดสินใจได้ดีกว่าตนเองและหากนานเข้า เขาก็จะเริ่มไม่เห็นความสำคัญที่จะต้องสอบถามหาความคิดเห็นของคนอื่นๆ(ก็ในเมื่อคิดเอาเองว่า ตนเองคิดได้ดีที่สุดอยู่แล้ว  แล้วทำไมต้องพยายามหาความคิดเห็นที่ต่างออกไปเล่า)

- ที่มากไปกว่านั้น คนที่คิดว่าตนเองเก่งกว่าคนอื่นๆ นั้นก็จะพยายามหาวิธีที่เขาจะสามารถใช้ความฉลาดของตนเองให้ได้มากที่สุด  ดังนั้นเขาจะพยายามเสาะแสวงหา   วิธีการที่เร็วที่สุดเข้าสู่ความต้องการของตนเอง(ที่คิดว่าถูกต้อง)  โดยการบอกว่าคนอื่นๆ คิดผิดหรือหาวิธีการพิสูจน์ว่าคนอื่นๆคิดผิด เพื่อจะให้คนอื่นๆรอบตัวเห็นด้วย กับวิธีคิดของตนเองภายในระยะเวลาอันสั้น

หากคนเก่งของเรา  ยังไม่รู้ตัวว่าเขาหรือเธอติดกับดักความเก่งของตัวเองเสียแล้ว  มันก็ยากยิ่งนักที่จะออกมาจากกับดักได้โดย เฉพาะอย่างยิ่ง  สำหรับคนที่มีตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับกลางหรือสูง  เขาจะสร้างความลำบากใจให้เพื่อนร่วมงาน  เนื่องจากว่า เอาแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่จะทำการใดก็อาจจะสำเร็จได้ยากเพราะคนอื่นรอบตัวก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่มีความคิดเห็นและก็คงอยากได้โอกาสได้แสดงออกถึงความคิดของตนเองเช่นเดียวกัน  ที่นอกเหนือไปจากนี้ลูกน้องของคนที่ติดกับดักแบบนี้  ก็จะรู้สึกว่ามีเจ้านายที่เผด็จ  การลูกน้องของเขาอาจเริ่มต้นด้วยการพยายามจะแสดงความคิดเห็น  แต่กาลเวลาผ่านไป  เขาย่อมเรียนรู้ว่าพูดไปไร้ประโยชน์  เจ้านายไม่ชอบให้คิดก็จะเริ่มหยุดคิดทีละน้อย  ทีละน้อย จนสุดท้ายก็พาลไม่คิดเสียเลย ลูกน้องบางคนอาจจะถึงกับลาออกและที่สำคัญเราจะหาคนที่จะพยายามบอกเขาหรือเธอให้เข้าใจถึง กับดักที่เขาติดอยู่ก็ดูว่าจะยากยิ่ง ยิ่งกว่า...



Credit : Blog Oknation

0 ความคิดเห็น :

Post a Comment