01 August 2014

ไปเจอเนื้อหาส่วนนึงในเวปผู้จัดการ ...ประทับใจมาก ขอนำมาให้เพื่อนๆลองอ่านดู ความเห็นแก่ตัวของมนุษย์..สะท้อนภาพในภาวะปัจจุบัน ( สะท้อนเรื่องทั่วไป ไม่ขออิงการเมือง)


มีชายคนหนึ่งเข้าเฝ้าพระเจ้า และถามพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า สวรรค์กับนรกนั้น ต่างกันอย่างไร ?” พระเจ้าตรัสตอบว่า “ตามเรามาดูกัน”
       
       เขาก็ไปเห็นห้องๆหนึ่ง ที่เป็น “นรก” ภายในห้องมีหม้อสตูเนื้อหอมฉุยน่ารับประทาน และมีชาวนรกมากมาย แต่ละคนหิวโหย หมองเศร้า ขาดความสามัคคีกัน ไม่รักกัน ทะเลาะกัน เขาก็นึกสงสาร และเมื่อเขาสังเกต ก็เห็นว่า สาเหตุก็คือ ชาวนรกแต่ละคนจะมี “ช้อน” สำหรับตักสตู แต่ช้อนของชาวนรกนั้น ยาวกว่าแขน ทำให้ตักสตูเข้าปากไม่ได้ จึงหิวโหย
       
       และเขาก็ได้ไปเห็นอีกห้องหนึ่ง ที่เป็น “สวรรค์” ภายในห้องก็มีหม้อสตูเนื้อหอมฉุยน่ารับประทานเช่นกัน และมีชาวสวรรค์มากมาย แต่ละคนอิ่มหนำสำราญ มีความสุข รักสามัคคีกัน ไม่ทะเลาะกัน เขาก็นึกชื่นชม และเมื่อเขาสังเกต ก็พบว่า ชาวสวรรค์แต่ละคนก็มี “ช้อน” สำหรับตักสตู และช้อนของชาวสวรรค์นั้น ก็ยาวกว่าแขนเช่นกัน ทำให้เขาแปลกใจมาก
       
       เขาจึงถามพระเจ้า “พระเจ้า ข้าพระองค์เห็นคนในนรกหิวโหย ก็เพราะช้อนยาวจนป้อนเข้าปากไม่ได้ ก็นึกว่า ชาวสวรรค์มีสิทธิพิเศษ มีช้อนที่สั้นเป็นปกติ แต่กลับพบว่า ช้อนของเขาก็ยาวเกินไปเหมือนกัน แล้วมันจะต่างกันตรงไหน ?”
       
       พระเจ้าตรัสตอบว่า “แน่ล่ะสิ มันต่างกัน เพราะคนบนสวรรค์ เขาเรียนรู้ที่จะ “ป้อน” ให้กันและกัน”
       
       ความแตกต่างระหว่างสวรรค์กับนรก ไม่ใช่เงื่อนไขที่ต่างกัน แต่จิตใจ และความคิดของคนในสังคมนั่นแหละ ที่จะทำให้สังคมนั้น เป็นนรก หรือ เป็นสวรรค์
       
       หากคนคิดเห็นแก่ตัว เรื่องความสุขในชีวิตก็เป็นเรื่องเห็นแก่ตัวเองฝ่ายเดียว เป้าหมายในชีวิตก็เป็นเรื่องเห็นแก่ตัวฝ่ายเดียว แต่ละคนเอาเรื่องประโยชน์ส่วนตัวเป็นหลัก ไม่สนใจผู้อื่น สังคมก็จะขาดความรัก และขาดความสุข
       
       แต่สังคมที่เห็นแก่ส่วนรวม เห็นแก่กันและกัน รักกัน สามัคคีกัน สังคมนั้นก็มีแต่ความสุข สันติ และความรัก และนำไปสู่สภาพสังคมที่มีพลัง และเศรษฐกิจก็จะดี


       
       มีหลักธรรมที่เตือนสติเราทุกคนอยู่ว่า “จงเข้าใจข้อนี้ คือว่าในสมัยจะสิ้นยุคนั้น จะเกิดเหตุการณ์กลียุค เพราะมนุษย์จะเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน เย่อหยิ่ง ยโส ชอบด่าว่า ไม่เชื่อฟังคำบิดามารดา อกตัญญู ไร้ศีลธรรม ไร้มนุษยธรรม ไม่ให้อภัยกัน ใส่ร้ายกัน ไม่ยับยั้งชั่งใจ ดุร้าย เกลียดชังความดี ทรยศ มุทะลุ หัวสูง รักความสนุกยิ่งกว่ารักพระเจ้า ถือศาสนาแต่เปลือกนอก ส่วนแก่นแท้ของศาสนาเขาไม่ยอมรับ” ผมเห็นแล้วก็รู้สึกแตะต้องใจ และคิดว่า สำหรับสถานการณ์ในไทยในปัจจุบัน คงจะเป็นประโยชน์ไม่น้อยที่จะได้นำเสนอต่อท่านผู้อ่าน เพื่อให้เราคนไทยทุกคนระมัดระวังความคิดที่เห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว แตกแยกแบ่งก๊กแบ่งฝ่าย ล้วนแต่นำไปสู่ความสูญเสีย
       

Credit : Manager

0 ความคิดเห็น :

Post a Comment